ไมซีนี
เมืองไมซีนี สถานที่ขุดค้นทางโบราณคดีที่ไมซีนี * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
พิกัด | 37°43′51″N 22°45′22″E / 37.730833°N 22.756111°E |
ประเทศ | กรีซ |
ภูมิภาค ** | เพโลพอนนีส ประเทศกรีซ |
ประเภท | สมบัติทางวัฒนธรรม |
เกณฑ์พิจารณา | i, ii, iii, iv, vi |
อ้างอิง | 941 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 1999 (คณะกรรมการสมัยที่ Ika-23) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
ไมซีนี (กรีกโบราณ: Μυκῆναι or Μυκήνη อ่านว่า มูแคไน หรือ มูแคแน ; อังกฤษ: Mycenae) คือเมืองโบราณสมัยสำริดก่อนยุคเฮเลนิก (อารยธรรมกรีซโบราณนับแต่กรีซยุคอาร์เคอิกป็นต้นมา) ตั้งอยู่ในเนินเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของที่ราบอาร์กอส ในเพโลพอนนีส มีกำแพงสร้างอยู่โดยรอบ ปัจจุบันเป็นสถานที่ขุดค้นทางโบราณคดีที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก
ในสหัสวรรษที่สองก่อน ค.ศ. ไมซีนีเคยเป็นศูนย์กลางสำคัญของอารยธรรมกรีกสมัยสำริด เป็นฐานที่ตั้งทางการทหารที่มีอิทธิพลเหนือกรีซทางตอนใต้เกือบทั้งหมด รวมไปถึงบางส่วนของอานาโตเลีย (ประเทศตรุกีในปัจจุบัน) นครไมซีนีรุ่งเรืองอยู่ระหว่าง ปี 1600 ก่อน ค.ศ. ถึง ปี 1100 ก่อน ค.ศ. อันเป็นช่วงที่เรียกว่าอารยธรรมไมซีนี ณ จุดสูงสุดของอารยธรรมนี้ หอคอยและปราการของไมซีนีมีประชากรอยู่ 30,000 คน ในพื้นที่ 32 เฮกแตร์
ชื่อและตำนาน
[แก้]แม้หลักฐานโบราณคดีจะชี้ว่าชาวไมซีนีเป็นคนชาติพันธ์กรีก และพูดภาษากรีก แต่ชื่อ มูแคไน ไม่น่าจะเป็นคำกรีก แต่อาจจะเป็นชื่อสถานที่ที่เรียกโดยชาวพื้นเมือง (autochthon) ที่อาศัยอยู่มาก่อนพวกกรีก ตามตำนานกล่าวว่าชื่อเมืองไมซีนีมีความเกี่ยวข้องกับ คำว่า "เห็ด" (กรีกโบราณ: μύκης: mycēs) ในภาษากรีก นักภูมิศาสตร์โบราณ เพาเซเนียส (กรีกโบราณ: Παυσανίας) ให้เครดิตการตั้งชื่อแก่ เพอร์ซิอัส ผู้ที่ตำนานเทพปกรณัมกรีกกล่าวว่าเป็นผู้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้น ณ สถานที่ที่ตนได้สังหาร อะคริซิอัส (หรืออะไครเซียส) กษัตริย์แห่งอาร์กอส ผู้เป็นพระเจ้าตาของตน แต่ได้สละสิทธิปกครองเมืองให้กับ เมกาเปนทีส (กรีกโบราณ: Μεγαπένθης) ผู้เป็นหลานอีกคนหนึ่งของอะคริซิอัส และตั้งชื่อให้กับเมืองว่า "มูแคไน" ตามด้ามดาบของตนที่มีรูปร่างคล้ายเห็ด
ในโฮเมอร์ เมืองไมซีนีเป็นอาณาจักรของอะกาเมมนอน วีรบุรุษชาวกรีกผู้นำเหล่านักรบอะคีอันไปสู้ในสงครามกรุงทรอย เทพีเฮรามเหสีของซุสโปรดปรานเมืองนี้เป็นพิเศษ
ประวัติศาสตร์
[แก้]การเมืองการปกครอง
[แก้]ศาสนา
[แก้]เมืองไมซีนีในเทพปกรณัมกรีก
[แก้]ราชวงศ์เพอร์เซอิด
[แก้]กรุงไมซีนีตามเทพปกรณัมกรีกถูกก่อตั้งโดยเพอร์ซิอัส วีรบุรุษกึ่งเทพที่เกิดจากซุส กับนางแดนาอี (Danaë) ลูกสาวของอะคริซิอัสกษัตริย์แห่งอาร์กอส หลังจากที่ได้สังหารพระเจ้าตาของตนโดยอุบัติเหตุ ทำให้เพอร์ซิอัสไม่สามารถรับสืบทอดบัลลังก์อาร์กอสได้ เพอร์ซิอัสจึงแลกเมืองกับ เมกาเปนธีส (Megapenthes) ลูกพี่ลูกน้องของตน และขึ้นเป็นกษัตริย์เมืองทิรินส์ (Tiryns) แทน แล้วให้เมกาเปนธีสครองอาร์กอส หลังจากนั้นเพอร์ซิอัสก็ก่อตั้งเมืองไมซีนีขึ้น และปกครองร่วมกับทิรินส์ (จากเมืองไมซีนี)
เพอร์ซิอัสแต่งงานกับนางแอนโดรเมดาและมีบุตรด้วยกันหลายคน แต่ภายหลังถูกสังหารโดยเมกาเปนธีส ขณะที่ยกทัพไปทำสงครามกับอาร์กอส อิเล็กทริอัน (Electryon) บุตรชายของเพอร์ซิอัสขึ้นครองราชย์ต่อในราชวงศ์เพอร์เซอิด แต่การสืบทอดถูกขัดขวางโดยปเตเรลาอัส (Pterelaus) ซึ่งเป็นสายเลือดเพอร์เซอิดอีกคนหนึ่ง อิเล็กทริอันต้องหนีออกจากเมืองไปพร้อมกับฝูงปศุสัตว์ และได้พบกับแอมฟิทริอัน (Amphitryon) หลานชายของเพอร์ซิอัสแต่ถูกแอมฟิทริอันสังหารด้วยตระบองโดยอุบัติเหตุ ซึ่งเมื่อฆ่าลุงของตนแล้วแอมฟิทริอันก็ลี้ภัยหนีไป
ในที่สุดบัลลังก์ของไมซีนีก็ตกแก่สเธเนลัสบุตรชายอีกคนของเพอร์ซิอัส และเป็นอันดับสามในราชวงศ์เพอร์เซอิด สเธเนลัสได้แต่งงานกับ นิซิปเป ลูกสาวของกษัตริย์ของกษัตริย์เพล็อปส์ (Pelops) ผู้ครองนครเอลิส (Elis) นครรัฐที่มีอำนาจมากที่สุดในพื้นที่และเวลานั้น นางนิซิปเปให้กำเนิดบุตรชายคือ ยูริสธีอัส (Eurystheus) กษัตริย์องค์ที่ 4 และองค์สุดท้ายในราชวงศ์เพอร์เซอิด ต่อมาเมื่อฮีลัสบุตรชายของเฮราคลีสได้สังหารสเธเนลัส ยูริสธีอัสก็กลายเป็นปฏิปักษ์กับเฮราคลีส และเมื่อเฮราคลีสตายลง เขาก็ทำการขับไล่พวกเฮราไคลดี หรือพวกเฮราคลิดส์ เหล่าผู้สืบสายเลือดของเฮราคลีส และเป็นสายเลือดเพอร์เซอิดสายหนึ่งออกไปจากแผ่นดินของเพล็อปส์ (เพโลพอนนีส)
แต่แม้จะกำจัดคู่แข่งในราชบัลลังก์ไมซีนีออกไปได้ ยูริสธีอัสกับลูกชายทุกคนก็ถูกสังหารในการสงครามกับเอเธนส์ ราชวงศ์เพอร์เซอิดจึงมาถึงจุดจบ และชาวไมซีนีก็ยกเอาพระปิตุลาทางฝ่ายแม่ของยูริสธีอัส คือ เอทรีอัส (Atreus) ผู้สืบสายเลือดราชวงศ์เพล็อปส์ ขึ้นเป็นกษัตริย์ของไมซีนีต่อไป