ข้ามไปเนื้อหา

วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Walt Disney Animation Studios)
วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์
ชื่อเดิม
  • ดิสนีย์บราเธอร์การ์ตูนสตูดิโอ (1923–1926)
  • วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอ (1926–1929)
  • วอลต์ดิสนีย์โปรดักชันส์ (1929–1986)
  • วอลต์ดิสนีย์ฟีเจอร์แอนิเมชัน (1986–2007)
ประเภทหน่วยธุรกิจ
อุตสาหกรรม
ก่อนหน้าลาฟโอแกรมสตูดิโอ
ก่อตั้งตุลาคม 16, 1923; 101 ปีก่อน (1923-10-16) (ดิสนีย์บราเธอร์การ์ตูนสตูดิโอ)
ผู้ก่อตั้งวอลต์ ดิสนีย์
รอย โอ. ดิสนีย์
สำนักงานใหญ่2100 เวสต์ริเวอร์ไซด์ไดรฟ์, ,
บุคลากรหลัก
ผลิตภัณฑ์ภาพยนตร์แอนิเมชัน
ละครชุดแอนิเมชัน
เจ้าของเดอะวอลต์ดิสนีย์
บริษัทแม่เดอะวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ (ดิสนีย์เอ็นเตอร์เทนเมนต์)
เว็บไซต์disneyanimation.com
เชิงอรรถ / อ้างอิง
[1][2][3][4][5]

วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ (อังกฤษ: Walt Disney Animation Studios; WDAS)[6] บางครั้งก็เรียกสั้น ๆ ว่า ดิสนีย์แอนิเมชัน (Disney Animation) เป็นสตูดิโอแอนิเมชันสัญชาติอเมริกันที่สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันและภาพยนตร์สั้นให้กับบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ ตราสัญลักษณ์ด้านการผลิตในปัจจุบันได้มาฉากการ์ตูนเรื่องแรกของสตูดิโอ เรือกลไฟวิลลี่ (1928) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1923 โดยสองพี่น้องวอลต์ ดิสนีย์ และรอย โอ. ดิสนีย์[1] เป็นสตูดิโอแอนิเมชันที่เปิดดำเนินการที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันจัดเป็นส่วนหนึ่งของเดอะวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาคารรอย อี. ดิสนีย์แอนิเมชัน ในล็อตของวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอในเบอร์แบงก์ รัฐแคลิฟอร์เนีย[7] นับตั้งแต่การก่อตั้ง สตูดิโอได้ผลิตภาพยนตร์ 61 เรื่อง ตั้งแต่ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (1937) ไปจนถึง พรมหัศจรรย์ (2023)[8] และภาพยนตร์สั้นหลายร้อยเรื่อง

สตูดิโอก่อตั้งขึ้นในชื่อดิสนีย์บราเธอร์การ์ตูนสตูดิโอในปี ค.ศ. 1923 โดยเปลี่ยนชื่อเป็นวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอในปี ค.ศ. 1926 และรวมเป็นวอลต์ดิสนีย์โปรดักชันส์ในปี ค.ศ. 1929 สตูดิโอแห่งนี้ทุ่มเทให้กับการผลิตภาพยนตร์สั้นจนกระทั่งเข้าสู่การผลิตในปี ค.ศ. 1934 ส่งผลให้เกิดภาพยนตร์เรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดในปี ค.ศ. 1937 หนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวเรื่องแรกและเป็นภาพยนตร์จากสหรัฐเรื่องแรก ต่อมาในปี ค.ศ. 1986 ในระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ วอลต์ดิสนีย์โปรดักชันส์ซึ่งเติบโตจากสตูดิโอแอนิเมชันแห่งเดียวมาเป็นกลุ่มบริษัทสื่อระดับนานาชาติ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ และสตูดิโอแอนิเมชันได้เปลี่ยนชื่อเป็นวอลต์ดิสนีย์ฟีเจอร์แอนิเมชัน เพื่อสร้างความแตกต่างจากบริษัทแผนกอื่น ๆ ชื่อในปัจจุบันถูกนำมาใช้ในปี ค.ศ. 2007 หลังจากที่ดิสนีย์เข้าซื้อกิจการของพิกซาร์ในปีก่อนหน้า

สำหรับคนส่วนใหญ่ ดิสนีย์แอนิเมชันมีความหมายเหมือนกันกับแอนิเมชัน เพราะ "ไม่มีแนวทางปฏิบัติของบริษัทใดที่สามารถครองบรรทัดฐานด้านสุนทรียศาสตร์ได้ในสื่ออื่น ๆ" ที่ในระดับล้นหลามเช่นนี้[9] สตูดิโอแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นสตูดิโอแอนิเมชันชั้นนำของอเมริกาตลอดมา[10] และเป็น "ผู้นำด้านแอนิเมชันระดับโลกอย่างไม่มีปัญหามานานหลายทศวรรษ"[11] สตูดิโอได้พัฒนาเทคนิค แนวคิด และหลักการมากมายที่กลายมาเป็นแนวทางปฏิบัติมาตรฐานของแอนิเมชันแบบดั้งเดิม[12] สตูดิโอยังเป็นผู้บุกเบิกด้านศิลปะการเขียนสตอรีบอร์ด ซึ่งปัจจุบันเป็นเทคนิคมาตรฐานที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ทั้งแอนิเมชันและฉบับคนแสดง[13] คลังภาพยนตร์แอนิเมชันของสตูดิโอเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของดิสนีย์ โดยมีดาวเด่นจากการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องสั้นอย่างมิกกี้ เมาส์, มินนี่ เมาส์, โดนัลด์ ดั๊ก, เดซี่ ดั๊ก, กู๊ฟฟี่ และพลูโต กลายมาเป็นตัวละครที่มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมสมัยนิยมและเป็นมาสคอตโดยรวมของบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์

ภาพยนตร์ของสตูดิโอเรื่อง ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (2013) นครสัตว์มหาสนุก (2016) และผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ (2019) ล้วนเป็นหนึ่งในรายการ 50 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันอันดับที่สองที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกตลอดกาลจนกระทั่งการเข้าฉายของ เดอะ ซูเปอร์มาริโอบราเธอร์ส มูฟวี่ (2023) โดยอิลลูมิเนชันและนินเท็นโด

ภายในปี ค.ศ. 2013 สตูดิโอไม่ได้พัฒนาแอนิเมชันวาดด้วยมืออีกต่อไป และได้เลิกจ้างแผนกแอนิเมชันวาดด้วยมือเป็นส่วนใหญ่แล้ว[14][15] อย่างไรก็ตาม สตูดิโอระบุว่าพวกเขาจะเปิดรับข้อเสนอจากผู้สร้างภาพยนตร์สำหรับโครงการภาพยนตร์วาดด้วยมือในอนาคต[16]

การผลิต

[แก้]

ภาพยนตร์

[แก้]

วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ได้ผลิตแอนิเมชันในชุดเทคนิคแอนิเมชัน รวมถึงแอนิเมชันแบบดั้งเดิม คอมพิวเตอร์แอนิเมชัน การผสมผสานทั้งสองอย่าง และแอนิเมชันรวมกับฉากคนแสดง ภาพยนตร์เรื่องแรกของสตูดิโอเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ออกฉายเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1937[17] และภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ลุยโลกลึกลับ ออกฉายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022

ตั้งแต่ยุคฟื้นฟูของดิสนีย์ไปจนถึงยุคหลังฟื้นฟู ภาพยนตร์ของพวกเขามีต้นทุนสร้างระหว่าง 40–140 ล้านดอลลาร์ เริ่มต้นด้วย กุ๊กไก่หัวใจพิทักษ์โลก (2005) ภาพยนตร์ส่วนใหญ่มีต้นทุนสร้างที่ 150–175 ล้านดอลลาร์ ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ (2010) เป็นภาพยนตร์ที่ลงทุนมากที่สุดของสตูดิโอ ด้วยทุนสร้าง 260 ล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพยนตร์สั้น

[แก้]

นับตั้งแต่เรื่องอลิซคอเมดีส์ในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1920 วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ได้ผลิตภาพยนตร์สั้นที่โดดเด่นหลายเรื่อง รวมถึงการ์ตูนมิกกี้ เมาส์ และภาพยนตร์ชุดซิลลีซิมโฟนี จนกระทั่งแผนกสตูดิโอการ์ตูนปิดตัวลงในปี ค.ศ. 1956 ภาพยนตร์สั้นหลายเรื่องเหล่านี้เป็นสื่อกลางสำหรับสตูดิโอเพื่อทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะใช้ในกระบวนการสร้างภาพยนตร์ เช่น การซิงโครไนซ์เสียงในเรื่อง เรือกลไฟวิลลี่ (1928)[18] การบูรณาการกระบวนการเทคนิคคัลเลอร์แบบสามแถบในเรื่อง พฤกษามาลี (1932)[19] กล้องหลายเครื่องในเรื่อง โรงสีร้าง (1937)[20] กระบวนการซีโรกราฟีในเรื่อง โกลิอัท 2 (1960)[21] และแอนิเมชันไฮบริดที่วาดด้วยมือ/ซีจีไอในเรื่อง ออฟฮิสร็อกเกอส์ (1992)[22] เปเปอร์แมน (2012)[23] และเก็ตอะฮอร์ส (2013)[24]

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 ถึง ค.ศ. 2008 ดิสนีย์ได้เปิดตัววอลต์ดิสนีย์เทรเชอส์ ซึ่งเป็นซีรีส์ดีวีดีสำหรับสะสมจำนวนจำกัด เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีของวอลต์ดิสนีย์

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2015 ดิสนีย์ได้เปิดตัวภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดสั้น 12 เรื่องในชื่อ: วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ชอร์ตฟิล์มคอลเลกชัน ซึ่งรวมถึงเรื่องอื่น ๆ ด้วย ติ๊กต๊อกเทล (2010) กำกับโดยดีน เวลลินส์ และเพรปแอนด์แลนดิง – โอเปอร์เรชัน: ซีเคร็ตซานตา (2010) เขียนบทและกำกับโดยเควิน ดีเตอร์ส และสตีวี แวร์เมอร์ส-สเกลตัน

รายการโทรทัศน์

[แก้]

วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ประกาศการขยายไปสู่รายการโทรทัศน์ในปี ค.ศ. 2020 และปัจจุบันกำลังผลิตรายการต้นฉบับ 5 รายการสำหรับดิสนีย์+ การแสดงรวมถึง เทียน่า (2024)[25]

ชื่อเรื่อง เครือข่าย ออกอากาศเดิม หมายเหตุ
ชอร์ตเซอร์กิต ดิสนีย์+ 2020–ปัจจุบัน สั้น
ซีนิเมชัน 2020–2021
ฮาวทูสเตย์แอตโฮม 2021
โอลาฟพรีเซนส์
เบย์แม็กซ์! 2022 ละครโทรทัศน์
ซูโทเปีย+
อิวาจู 2024 ละครโทรทัศน์; ร่วมผลิตกับคูกาลีมีเดีย[26]

ชุดภาพยนตร์/แฟรนไชส์

[แก้]

รายการนี้รวมเฉพาะชุดภาพยนตร์ และ/หรือแฟรนไชส์ที่มีภาพยนตร์ละคร ภาพยนตร์สั้น และละครชุดทางโทรทัศน์ที่ผลิตโดยวอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์แต่เพียงผู้เดียวตลอดหลายปีที่ผ่านมา (และไม่ใช่ภาพยนตร์หรือซีรีส์ใด ๆ ที่ผลิตโดยหน่วยโดยตรงเพื่อวิดีโอ/โทรทัศน์ของดิสนีย์ เช่น ดิสนีย์เทเลวิชันแอนิแมชัน หรือดิสนีย์ตูนสตูดิโอส์)

ชื่อเรื่อง วันที่วางจำหน่าย
มิกกี้เมาส์แอนด์เฟรนด์ส 1928–ปัจจุบัน
สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด 1937–ปัจจุบัน
แฟนเทเชีย 1940–ปัจจุบัน
ดัมโบ้ 1941–2019
กวางน้อย...แบมบี้ 1942–ปัจจุบัน
ซาลูโดสอามิโกส 1943–2018
เมกไมน์มิวสิก 1946–1954
ซินเดอเรลล่า 1950–2015
อลิซในแดนมหัศจรรย์ 1951–ปัจจุบัน
ปีเตอร์ แพน 1953–ปัจจุบัน
ทรามวัยกับไอ้ตูบ 1955–2019
เจ้าหญิงนิทรา 1959–ปัจจุบัน
101 ดัลเมเชียนส์ 1961–ปัจจุบัน
วินนีเดอะพูห์ 1966–ปัจจุบัน
เมาคลีลูกหมาป่า 1967–ปัจจุบัน
หนูหริ่งหนูหรั่งผจญเพชรตาปีศาจ 1977–1990
เพื่อนแท้ในป่าใหญ่ 1981–2006
เงือกน้อยผจญภัย 1989–ปัจจุบัน
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 1991–ปัจจุบัน
อะลาดิน 1992–ปัจจุบัน
เดอะไลออนคิง 1994–ปัจจุบัน
โพคาฮอนทัส 1995–1998
คนค่อมแห่งนอเทรอดาม 1996–ปัจจุบัน
เฮอร์คิวลีส 1997–ปัจจุบัน
มู่หลาน 1998–ปัจจุบัน
ทาร์ซาน 1999–2005
จักรพรรดิกลายพันธุ์ อัศจรรย์พันธุ์ต๊อง 2000–2008
แอตแลนติส 2001–2003
ลีโล่แอนด์สติทช์ 2002–ปัจจุบัน
มหัศจรรย์หมีผู้ยิ่งใหญ่ 2003–2006
โบลท์ ซูเปอร์โฮ่ง ฮีโร่หัวใจเต็มร้อย 2008–2009
มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ 2009–ปัจจุบัน
ราพันเซล 2010–2020
เร็กอิตราล์ฟ 2012–ปัจจุบัน
โฟรเซน 2013–ปัจจุบัน
บิ๊กฮีโร่ 6 2014–ปัจจุบัน
ซูโทเปีย 2016–ปัจจุบัน
ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้ 2016–ปัจจุบัน
เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์ 2021–ปัจจุบัน

ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุด

[แก้]

ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในอเมริกาเหนือ

[แก้]
อันดับ ชื่อเรื่อง ปี รายได้
1 ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ 2019 $477,373,578
2 เดอะไลอ้อนคิง 1994 $422,783,777
3 ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ 2013 $400,953,009
4 นครสัตว์มหาสนุก 2016 $341,268,248
5 ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้ $248,757,044
6 บิ๊กฮีโร่ 6 2014 $222,527,828
7 โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 1991 $218,967,620
8 อะลาดิน 1992 $217,350,219
9 ราล์ฟตะลุยโลกอินเทอร์เน็ต 2018 $201,091,711
10 ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ 2010 $200,821,936
11 ราล์ฟ วายร้ายหัวใจฮีโร่ 2012 $189,422,889
12 สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด 1937 $184,925,486
13 ทาร์ซาน 1999 $171,091,819
14 ลีโล่ แอนด์ สติทช์ อะโลฮ่า..เพื่อนฮาข้ามจักรวาล 2002 $145,794,338
15 ทรามวัยกับไอ้ด่าง 1961 $144,880,014
16 เมาคลีลูกหมาป่า 1967 $141,843,612
17 โพคาฮอนทัส 1995 $141,579,773
18 ไดโนเสาร์ 2000 $137,748,063
19 กุ๊กไก่หัวใจพิทักษ์โลก 2005 $135,386,665
20 โบลท์ ซูเปอร์โฮ่ง ฮีโร่หัวใจเต็มร้อย 2008 $114,053,579
21 เงือกน้อยผจญภัย 1989 $111,543,479
22 มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ 2009 $104,400,899
23 กวางน้อย...แบมบี้ 1942 $102,247,150
24 คนค่อมแห่งนอเทรอดาม 1996 $100,138,851
25 เฮอร์คิวลิส 1997 $99,112,101

ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลก

[แก้]
อันดับ ชื่อเรื่อง ปี รายได้
1 ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ 2019 $1,453,683,476
2 ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ 2013 $1,397,045,694
3 นครสัตว์มหาสนุก 2016 $1,025,521,689
4 เดอะไลอ้อนคิง 1994 $968,750,694
5 ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้ 2016 $687,229,282
6 บิ๊กฮีโร่ 6 2014 $657,870,525
7 ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ 2010 $592,472,813
8 ราล์ฟตะลุยโลกอินเทอร์เน็ต 2018 $529,323,962
9 อะลาดิน 1992 $504,050,219
10 ราล์ฟ วายร้ายหัวใจฮีโร่ 2012 $471,222,889
11 ทาร์ซาน 1999 $448,191,819
12 โฉมงามกับเจ้าชายอสูร 1991 $438,656,843
13 สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด 1937 $418,200,000
14 เมาคลีลูกหมาป่า 1967 $378,000,000
15 ไดโนเสาร์ 2000 $349,822,765
16 โพคาฮอนทัส 1995 $346,079,773
17 โบลท์ ซูเปอร์โฮ่ง ฮีโร่หัวใจเต็มร้อย 2008 $328,015,029
18 คนค่อมแห่งนอเทรอดาม 1996 $325,338,851
19 กุ๊กไก่หัวใจพิทักษ์โลก 2005 $314,432,837
20 มู่หลาน 1998 $304,320,254
21 ทรามวัยกับไอ้ด่าง 1961 $303,000,000
22 ลีโล่ แอนด์ สติทช์ อะโลฮ่า..เพื่อนฮาข้ามจักรวาล 2002 $273,144,151
23 มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ 2009 $270,997,378
24 กวางน้อย...แบมบี้ 1942 $267,447,150
25 ซินเดอเรลล่า 1950 $263,591,415

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "The Walt Disney Studios". The Walt Disney Company. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2015. สืบค้นเมื่อ July 7, 2013.
  2. "Contact". Walt Disney Animation Studios. สืบค้นเมื่อ August 3, 2014.
  3. Ryan, Faughnder (August 9, 2019). "Disney shuffles animation and Blue Sky studio ranks after Fox acquisition". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ August 9, 2019.
  4. Lang, Brent (August 9, 2019). "Disney Taps Andrew Millstein, Clark Spencer for Top Animation Posts". Variety (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ August 9, 2019.
  5. Godfrey, Leigh (January 3, 2003). "David Stainton Named President, Disney Feature Animation". AWN News. สืบค้นเมื่อ February 27, 2013.
  6. "Our Studio". Walt Disney Animation Studios. Walt Disney. สืบค้นเมื่อ November 24, 2017. Combining masterful artistry...
  7. "Walt Disney Animation Studios – Our studio". Walt Disney Animation Studios. สืบค้นเมื่อ July 7, 2013.
  8. "New iPad App Goes Behind the Scenes of Disney's Animated Features". The Hollywood Reporter. August 8, 2013. สืบค้นเมื่อ August 6, 2014.
  9. Furniss, Maureen (2007). Art in Motion, Animation Aesthetics (2014 print-on-demand ed., based on 2007 revised ed.). New Barnet: John Libbey Publishing. p. 107. ISBN 9780861966639. JSTOR j.ctt2005zgm.9. OCLC 1224213919.
  10. Cavalier, Stephen (2011). The World History of Animation. Berkeley: University of California Press. pp. 14–16. ISBN 9780520261129. OCLC 668191570.
  11. Cavalier, Stephen (2011). The World History of Animation. Berkeley: University of California Press. p. 78. ISBN 9780520261129. OCLC 668191570.
  12. Barrier 1999, pp. 84–86, 144–151.
  13. Tumminello, Wendy (2005). Exploring Storyboarding. Clifton Park, NY: Thomson Delmar Learning. p. 20. ISBN 978-1-4018-2715-1.
  14. Lussier, Germain (March 6, 2013). "Walt Disney Company Currently Not Developing Any Hand-Drawn Animated Features". /Film. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  15. Amidi, Amid (April 11, 2013). "BREAKING: Disney Just Gutted Their Hand-Drawn Animation Division [UPDATED]". Cartoon Brew. สืบค้นเมื่อ May 27, 2021.
  16. Pearson, Ben (September 30, 2019). "Walt Disney Animation Isn't Opposed to Hand-Drawn Features, Jennifer Lee Talks About Making Changes After John Lasseter's Exit [Interview]". /Film. สืบค้นเมื่อ May 27, 2021.
  17. Barrier 1999, p. 229.
  18. Gabler 2006, p. 128
  19. FilmmakerIQ: The History and Science of Color Film: From Isaac Newton to the Coen Brothers (Digital video). YouTube. 2013. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 11:40. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2021. สืบค้นเมื่อ June 22, 2014.
  20. "Multiplane Cameras". Animationschooldaily.com. September 21, 2012. สืบค้นเมื่อ July 7, 2013.
  21. Cohen, Karl (January 2000). "Milestones of the Animation Industry in the 20th Century". Animation World Magazine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 16, 2014. สืบค้นเมื่อ June 28, 2014.
  22. Hinman, Catherine (July 15, 1992). "How The Disney Film Short 'Off His Rockers' Made It to the Big Screen: A Little Project That 'blew Up.'". Orlando Sentinel. สืบค้นเมื่อ June 28, 2014.
  23. MacQuarrie, Jim (November 2, 2012). "Disney's Paperman Is a Perfect Short Film". Wired. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 5, 2013. สืบค้นเมื่อ June 25, 2013.
  24. Breznican, Anthony (August 22, 2013). "Old-school Mickey Mouse gets future shock in Get a Horse! – First Look". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2014. สืบค้นเมื่อ August 22, 2013.
  25. "Walt Disney Animation Studios Announces 4 TV Series Coming to Disney+: "Baymax!," "Zootopia+," "Tiana" and "Moana, The Series"". Laughing Place. December 10, 2020. สืบค้นเมื่อ February 3, 2021.
  26. Stephenson, Cassidy (September 11, 2022). "Iwájú: Disney, Kugali Drop a First Look at the Nigeria-Focused Sci-Fi Series". Comic Book Resources. สืบค้นเมื่อ September 20, 2022.

แหล่งที่มา

[แก้]

อ่านเพิ่มเติม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
pFad - Phonifier reborn

Pfad - The Proxy pFad of © 2024 Garber Painting. All rights reserved.

Note: This service is not intended for secure transactions such as banking, social media, email, or purchasing. Use at your own risk. We assume no liability whatsoever for broken pages.


Alternative Proxies:

Alternative Proxy

pFad Proxy

pFad v3 Proxy

pFad v4 Proxy